👀 เอกภพ 👀
❤เอกภพวิทยาในอดีต ❤
1.เอกภพของชาวสุเมเรียนและบาบิโลน
2.เอกภพของกรีก
3.เอกภพของเคปเลอร์
4.เอกภพของกาลิเลโอ
🌟1.เอกภของชาวสุเมเรียนและบาบิโลน
- อยู่บนดินแดนที่ชื่อว่า เมโสโปเตเมีย (อิรัก)
- บันทึกตำแหน่งของดาวฤกษ์ และดาวเคราะห์โดยให้ "โลกเป็นศูนย์กลาง"
- บันทึกการตั้งชื่อกลุ่มดาวในท้องฟ้า
- อธิบายการเคลื่อนที่ของดวงดาวตามความเชื่อที่ว่า เทพเจ้าปกครองโลกท้องฟ้าและน้ำเป็นสิ่งที่เทเจ้าบันดาล
- ให้ความหมายของเอกภพว่า "ท้องฟ้าที่ประกอบด้วยดวงดาวต่างๆที่เคลื่อนที่ไปตามเวลา ตามความประสงค์ของนะเจ้า"
🌟เอกภพของชาวบาบิโลน
- วาดภาพดาวฤกษ์ ดาวเคราะห์ และกำหนดเส้นทางการขึ้น-ตกของดาวเป็นประจำทุกวัน
- ทำนายการเคลื่อนที่ของดาวเคราะห์ ดวงจันทร์ และดวงอาทิตย์ได้อย่างถูกต้อง
- ทำนายการเปลี่ยนแปลงฤดูกาลได้อย่างถูกต้อง
- ทำปฏิทินแสดงวันที่และฤดูกาลได้อย่างถูกต้อง
- เอกภพเหมือนกับชาวสุเมเรียน
🌟2.เอกภพของกรีก
- อาศัยข้อมูลจากสุเมเรียน+บาบิโลน และให้คณิตศาสตร์พัฒนาแบบจำลองของเอกภพ
- Socrates Thales Aleximander Anaximenis ให้เห็นว่าโลกเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
- อริสโตเติล พบว่า โลกมีลักษณะเป็นทรงกลม
- อริสตาร์คัส โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์
🌟3.เอกภพของเคปเลอร์
- โคเปอร์นิคัส ดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางของระบบสุริยะ ดาวเคราะห์ โคจรรอบดวงอาทิตย์เป็นวงกลม
- โยฮันเนส เคปเลอร์ (ผู้ชายไทโค บราห์) เสนอกฎเคปเลอร์ 3 ข้อ
1.วงโคจรของดาวเคราะห์เป็นวงรี
2.เส้นที่ลากจากระหว่างดวงอาทิตย์กับดาว เคราะห์จะกวาดเป็นพื้นที่ได้เท่ากันในเวลาที่ เท่ากัน
3.คาบกำลัง2 แปรผันตรงกับระยะห่างจากดวง อาทิตย์กำลัง3
โจฮันเนส เคปเลอร์ |
🌟4.เอกภพของกาลิเลโอ
- ใช้กล้องโทรทรรศน์ ศึกษาดาราศาสตร์
- ผิวดวงจันทร์มีภูเขาและหลุมอุกาบาตร
- ทางช้างเผือกที่มองเห็นเป็นผ้าขุ่น แท้จริงคือดาวฤกษ์
![]() |
กาลิเลโอ |
🌟นิวตัน อธิบายว่า การที่บริวารของดวงอาทิตย์สามารถโคจรรอบดวงอาทิตย์ได้เพราะแรงโน้มถ่วง ขนาดของแรง ขึ้นกับมวลและระยะห่าง
![]() |
นิวตัน |
กำเนิดเอกภพ
❤สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับเอกภพ❤
- เอกภพมีความกว้างใหญ่ไพศาล ประกอบด้วย กาแล็กซี ประมาณแสนล้านกาแล็กซี
- แต่ละกาเเล็กซีมีเส้นศุนย์กลางประมาณ 100000 ปีเเสง
- 1 ปีเเสง คือ ระยะทางที่แสงใช้เวลาในการเดินทาง 1 ปีมีค่าประมาญ 9.5 ล้านล้านกิโลเมตร
- ทฤษฎีที่ใช้ในการอะิบายการเกิดของเอกภพ ๆด้แก่ ทฤษฎีบิกแบง (Big Bang Theory)
❤ทฤษฎีบิกแบง (Big Bang Theory)❤
- เป็นทฤษฎีที่กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงของพลังงานมาเป็นมวลสารของเอกภพ
- ขณะเกิดบิกแบง ได้ปรากฎมีอนุภาคืนพื้นฐาน ได้แก่ ควาร์ก อิเล็กตรอน นิวโทรนิ และโฟตอน
-อนุภาคเหล่านี้มีปฏิอนุภาคของมันด้วย
-หากอนุภาคใดพบกับปฏิอนุภาคของมันจะเกิด การหลอมรวมกันของอนุภาคทั้งสอง ทำให้ อนุภาคทั้งสองกลายเป็นพลังงาน
-ในเอกภพมีจำนวนอนุภาคมากกว่าจำนวนปฏิ อนุภาค จึงทำให้มีอนุภาคเหลืออยู่ในเอกภพ และก่อให้เกิดเป็นสสารต่างๆ ในเอกภพใน ปัจจุบัน
- หลังเกิดบิกแบง 1 ไมโครวินาที อุณหภูมิของเอกภพลดลงประมาณสิบล้านล้านเคลวินและควาร์กรวมตัวกันกลายเป็นโปรตอนและนิวตรอน
- หลังบิกแบงได้ 3 นาที อุณหภูมิของเอกภพลดลงไอปีกเป็นร้อยล้านเคลวิน และเกิดการรวมตัวกันของโปรตอนกับนิวตรอนกลายเป็นฮีเลียมในช่วงนี้เอกภพขยายตัวเร็วมาก
- เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 30000 ปี อุณหภูมิของเอกภพได้ลดลงเหลือ 1000 เคลวิน นิวเคลียสของไฮโดนเจนและฮีเลียมดึงอิเล็กตรอนเข้ามาเป็นวงจร เกิดเป็นอะตอมขึ้น
- หลังเกิดบิกแบงอย่างน้อย 1000 ล้านปี ได้เกิดมีกาแล็กซี โดยภายในกาเเล็กซีมีธาตุไฮโดรเจนและฮีเลียมเป็นสารเริมต้นในการกำเนิดดาวฤกษ์รุ่นแรกๆ
❤กฎฮับเบิล❤
👀กาเเล็กซี👀
- กาเเล็กซี คือ ระบบของดาวฤกษ์ หรือเป็นอาณาจักรของดาวฤกษ์
- กาแล็กซีเกิดขึ้นมาหลังจากบิกแบงประมาณ 1000 ล้านปี
- แต่ละกาแล็กซีประกอบด้วยดาวฤกษ์ประมาณแสนล้านดวง
- แต่ละกาเเล็กซีคงสภาพอยู่ได้ด้วยแรงความโน้มถ่วงระหว่างดาวฟกษ์กับหลุมดำ
- ระหว่างดาวฤกษ์จะมีกลุ่มแก๊สและฝุ่นละออง เรียกว่า เนบิวล
❤ประเภทของกาแล็กซี❤
1.กาแล็กซีกังหัน (Spiral Galaxy) มีรูปร่างแบบกังหัน บางทีเรียกว่ากาเเล็กซีก้นหอย กาแล็กซีแอนโดรเมดามีรูปร่างแบบกังหัน

2.กาแล็กซีกังหันแบบมีเเขน Barred Spiral Galaxy)
มีลักษณะคล้ายกาแล็กซีกังหัน แต่ตรงกลางมีลักษณะเป็นคานและมีแขนแบบกาเเล็กซีแบบกังหันต่อออกมาจากปลายคานทั้งสอง มีอัตราหมุนรอบตัวเองเร็วกว่ากาแล็กซีทุกประเภท เช่น ทางช้างเผือก

3.กาแล็กซีกลมรี (Elliptical Galaxy)
มีรูปร่างกลมรี ซึ่งบางกาแล็กซีอาจกลมมากบางกาแล็กซีอาจรีมาก นักดาราศาสตร์ให้ความเห็นว่า กาแล้กซีประเภทนี้จะมีรูปร่างกลมรีมากน้อยเพียงใดนั่นขึ้นอยู่กับอัตราการหมุนของกาแล็กซี ถ้าหมุนเร็วจะมีรูปร่างยาวรีมาก

4.กาแล็กซีไร้รูปร่าง(Irregular Galaxy)
เป็นกาเเล็กซีที่มีรูปร่างไม่แน่นอนหรือเรียกว่า กาเเล็กซีอสันฐาน มักจะเป็นกาแล็กซีมีขนาดเล็ก เช่นน กาแล็กซีแมกเจลแลนใหญ่ และกาเเล็กซีแมกเจลแลนเล็ก

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น